แนะนำหนัง,ซีรี่ย์ Netflix ที่ไม่ควรพลาด

พี่เห็ดขอปิดท้ายแนะนำ หนัง Netflix 2021 ด้วยหนังผจญภัยสุดระทึกขวัญอีกเรื่องอย่าง In the heart of the sea ที่เล่าถึงเรื่องราวโศกนาฏกรรมของเรือล่าปลาวาฬในนิวอิงเเลนด์ที่ชื่อว่า “เอสเซกส์ (Essex)” จากการออกไปทำภารกิจล่าวาฬ จนต้องประสบกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันจากการโจมตีของปลาวาฬ  แนะนำหนัง จนทำให้เรือโดยสารอับปาง ทั้งนี้เหล่าผู้ล่าวาฬที่รอดชีวิตจึงต้องหาทางเอาตัวรอดจากทะเลอันโหดร้าย และบาดแผลจากเหตุการณ์ก่อนหน้าทำให้การเอาตัวรอดของเหล่านักล่าวาฬครั้งนี้ ต้องอาศัยทั้งความอดทน ความกล้า และศรัทธาที่พวกเขามี อีกทั้งยังมีเรื่องราวเกี่ยวพันกับหลายชีวิตที่พวกเขาล่า และสิ่งที่กำลังตามพวกเขาอีกด้วย โดยภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องน่าสนใจ ด้วยตัวบทและนักแสดงดังที่ขนกันมาอย่างคับคั่ง นำแสดงโดย นักแสดงหนุ่มขวัญใจสาวๆ อย่าง คริส เฮมส์เวิร์ธ รับบท โอเว่น เชส การผจญภัยเพื่อเอาตัวรอดครั้งนี้จะเป็นอย่างไร พี่เห็ดอยากให้เพื่อนๆ ได้สัมผัสด้วยเองกับหนังฟอร์มยักษ์ขึ้นหิ้ง Netflix แนะนำ ในปีนี้

อีกหนึ่ง หนัง Netflix 2021 ที่น่าสนใจมากๆ กับ Penguin Bloom หนังอ้างอิงจากเรื่องจริง ที่บอกเล่าเรื่องราวของ แซม บลูม และ คาเมรอน บลูม ผู้เป็นสามี โดยแซมได้ประสบอุบัติเหตุจนพิการ และตกอยู่ในภาวะซึมเศร้าเป็นเวลานาน  ซีรี่ย์ Netflix จนกระทั่งลูกชายตัวเล็กของเธอได้นำลูกนกตัวน้อยมาเลี้ยง แซมค่อยๆ ได้รับการเยียวยาจากการเลี้ยงดูเจ้าลูกนกตัวนี้ จิตใจของเธอค่อยๆ ดีขึ้น และเริ่มกลับมามองจุดมุ่งหมายในชีวิตอีกครั้ง สำหรับใครที่กำลังสิ้นหวัง พี่เห็ดขอแนะนำหนังสร้างแรงบันดาลใจอย่างเรื่องนี้เลยค่ะ Penguin Bloom นำแสดงโดยนักแสดงรุ่นใหญ่ นาโอมิ วัตต์ รับบท แซม บลูม ที่เรื่องนี้จะทำให้เราได้เห็นฝีมือการแสดงอารมณ์ระดับตำนานของนาโอมิ ที่ไม่ได้เห็นมาอย่างยาวนานอย่างแน่นอน

เอาใจคนรักหนังแนวผจญภัยเอาชีวิตรอดกับ Everest หนังอ้างอิงจากเหตุการณ์จริง โดยถ่ายทอดเรื่องราวของกลุ่มนักธุรกิจที่รวบรวมทีมเพื่อปีนเขา ซึ่งมีความตั้งใจจะพิชิตยอดเขาสูงสุดอย่าง เอเวอร์เรส โดยมีหัวหน้าทีมอย่าง ร็อบ ฮอลล์ เป็นผู้ลงทุนเปิดเส้นทางการเดินทางสุดหฤโหด รีวิวหนังใหม่ แต่การไปถึงเป้าหมายของพวกเขาไม่ใช่เรื่องง่าย หนังถ่ายทอดให้เห็นถึงความยากลำบากตั้งแต่อันตรายจากสภาพอากาศสุดเลวร้าย พายุหิมะถาโถม สอดแทรกไปด้วยความดราม่าจากการสูญเสียเพื่อนร่วมทีมของร็อบ เรียกได้ว่าครบรสทั้งความตื่นเต้น ลุ้นระทึก ไปจนถึงดราม่าน้ำตาคลอกันเลยทีเดียว Everest มีทีมนักแสดงหลากหลาย แสดงนำโดย เจสัน คลาร์ก รับบท ร็อบ ฮอลล์ และ เคียร่า ไนท์ลีย์ รับบท แจน อาร์โนลด์ เรียกว่ารวมนักแสดงตัวท็อปมานำแสดงขนาดนี้ พลาดไม่ได้ ไปลุ้นระทึกกับ Everest ด้วยกันนะคะ

อีกหนึ่งหนัง Original Netflix กับ The Dig หนังดัดแปลงจากสารคดีฟีลคลาสสิกที่เชื่อว่าหลายๆ คนคงตั้งตารอคอย เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดย อีดิธ เศรษฐีแม่หม้ายที่จ้างนักโบราณคดี เบซิล บราวน์ มาพิสูจน์ปริศนาของสมบัติที่เลื่องลือบนที่ดินของเธอ  แนะนำหนัง จนนำไปสู่การค้นพบร่องรอยอารยธรรมโบราณที่น่าอัศจรรย์ใจมากขึ้นเรื่อยๆ การสำรวจของพวกเขาจะเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญทางโบราณคดีเลยทีเดียว โดยภายในเรื่องสอดแทรกไปด้วยกลิ่นอายความโรแมนติกของอีดิธและบราวน์ ที่มีความลุ่มหลงในประวัติศาสตร์และการค้นหาร่องรอยในอดีตแบบเดียวกัน เพิ่มสีสันให้หนังได้ความรู้สึกโรแมนติกอีกด้วย The dig นำแสดงโดย เรฟ ไฟนส์ รับบท เบซิล บราวน์ และ แครี่ มัลลิแกน รับบท อีดิธ พริตตี้ เรียกได้ว่าได้สองนักแสดงขั้นเทพมารับบทนำแบบนี้ เป็นหนัง Netflix แนะนำ ที่รับรองว่าหนังถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้ครบถ้วนตรึงใจใครหลายๆ คนอย่างแน่นอน

ต่อกันด้วยภาพยนตร์สุดฮาสัญชาติเกาหลีที่เป็น Original Netflix กับเรื่อง What Happened to Mr. Cha หนังตลกที่สร้างจากเรื่องสมมุติแต่อิงกับเรื่องจริงของดาราเกาหลีชื่อดังในอดีตอย่าง ชาอินพโย ซึ่งเมื่อก่อนนี้นับได้ว่าเป็นนักแสดงหนุ่มดาวรุ่งพุ่งแรง แต่เมื่อเวลาผ่านไปกระแสนิยมของ ชาอินพโย ก็ค่อยๆ  ซีรี่ย์ Netflix ลดลงไปตามกาลเวลาเช่นกัน ซึ่งตัวหนังจะเล่าถึงช่วงเวลาปัจจุบันที่นับได้ว่าเป็นจุดต่ำสุดของการเป็นนักแสดงของ ชาอินพโย เลยก็ว่าได้ ถึงแม้ในปัจจุบัน เขาไม่สามารถยอมรับความจริงที่ว่าภาพลักษณ์ของเขาค่อยๆ เลือนไปจากวงการ จนเมื่อเกิดเหตุวุ่นๆ ขึ้น ชาอินพโย จะยังรักษาชื่อเสียงของเขาไว้ได้หรือไม่ อย่าลืมไปติดตามชมกันค่ะ เรื่องนี้นำแสดงโดย ชาอินพโย นักร้องนักแสดงรุ่นเก่าสุดเก๋า ที่มารับบทเป็นตัวละครที่ชื่อเดียวกับตัวเอง เรียกได้ว่าตลกร้ายจริงๆ จะสนุกชวนหัวเราะขนาดไหนตามไปดูกันได้ใน Netflix เลยค่ะ

ตามมาด้วยภาพยนตร์สุดระทึกระดับคุณภาพที่ Netflix แนะนำ อย่าง Us ผลงานภายใต้การกำกับของผู้กำกับ จอร์แดน พีล เปิดเรื่องมาด้วยครอบครัวเล็กๆ แสนอบอุน ซึ่งประกอบไปด้วย เก๊บ (พ่อ), แอดิเลด (แม่), โซร่า (ลูกสาว) และ เจสัน (ลูกชาย) โดยในอดีตนั้น แอดิเลด หรือ แอดดี้ ผู้เป็นแม่ ได้ประสบกับเหตุการณ์ลี้ลับในระหว่างที่หลงทางกับพ่อแม่ในวัยเด็ก ในตอนนั้นแอดดี้ได้ติดอยู่ในบ้านสวนสนุกที่เต็มไปด้วยกระจกเงามากมาย มันได้ตามหลอกหลอนแอดดี้มาจนถึงปัจจุบัน วันเวลาผ่านไปได้เกิดเรื่องราวพิศวงอีกครั้งเมื่อแอ๊ดดี้โตขึ้น ครอบครัวเธอถูกภาพเงาหลอกหลอนและตามทำร้าย ครอบครัววิลสันจะรับมือกับเงาทั้งสี่นี้ยังไงกัน รีวิวหนังไทย  นักแสดงนำเรื่องนี้ประกอบไปด้วย ลูพิตา ญองอ รับบท แอดดี้, วินสตัน ดุ๊ก รับบท เก๊บ, ชาหาดิ้ ไรท์ โจเซฟ รับบท โซร่า และ อีวาน อเล็กซ์ รับบท เจสัน โดยภาพยนต์เรื่องนี้เต็มไปด้วยปริศนาและความน่ากลัวมากมาย สายสยองขวัญพลาดไม่ได้เลยค่ะ

Netflix แนะนำ เปิดตัวกันด้วยภาพยนตร์ไทย โรแมนติก คอมเมดี้ จากค่ายจีดีเอช อ้าย..คนหล่อลวง โดยเนื้อเรื่องจะกล่าวถึง ทาวเวอร์ นักต้มตุ๋นคอลเซ็นเตอร์สุดหล่อ แต่ดันมาพลาดท่าให้ อินา อดีตสาวแบงค์สุดเปิ่นที่จับไต๋ซะได้ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนที่จะไม่ต้องถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย ทาวเวอร์จึงจำเป็นจะต้องรับข้อตกลงเพื่อทำภารกิจต้มตุ๋นเพื่อเอาคืนอดีตแฟนเด็กของอินา ซึ่งก็คือ เพชร แฟนเด็กสุดแสบที่หลอก จนทำให้อินาต้องกลายเป็นหนี้ท่วมตัว แต่แทนที่แผนจะดำเนินการได้อย่างราบรื่น กลับเป็นอินาซะเองที่ตกหลุมรักนักต้มตุ๋นสุดหล่ออย่างทาวเวอร์ซะได้ รีวิวหนังใหม่ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นักแสดงหนุ่มสุดหล่ออย่าง ณเดชน์ คุกิมิยะ รับบทเป็น ทาวเวอร์ ควงคู่มากับนักแสดงสาว ใบเฟิร์น–พิมชนก ลือวิเศษ รับบท อินา, แบงค์–ธิติ มหาโยธารักษ์ รับบท เพชร ภารกิจครั้งนี้จะป่วน จะฮาขนาดไหน รอติดตามชมได้ใน หนัง Netflix 2021 เลยค่ะ

หลังจากรีวิว Season แรกไป มาในภาคนี้ ก็ยังคงเป็นซีรีส์ไซไฟ ที่เดินเรื่องอืดมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่เราสนใจแค่บางประเด็นในซีรีส์ กว่ามันจะวนกลับมาเล่า กลับมาเล่น บางทีอาจจะข้ามตอนกันไปเลย ซ้ำร้ายหนังภาคนี้ยังเพิ่มความโหดหินไปกว่าภาคแรกด้วยการเล่าเรื่องแบบไม่เรียงลำดับเวลาที่ชวนสับสนกว่าภาคแรกไปอีก ข่าวหนังใหม่ แม้เราจะพอรู้ว่าเหตุการณ์ใดควรเกิดก่อนหรือหลัง แต่ระหว่างดูเราก็จะมีความงงเล็กน้อยว่าเอ้ะ มันใช่แบบที่เราคิดรึเปล่านะ ก็ยอมรับว่าส่วนนึงคือผิดเองที่ดูไปก็ข้ามไป เพราะบางประเด็นเราไม่ได้สนใจจริงๆ แถมเดินเรื่องช้ามากๆ ถ้าไม่ข้ามบางฉากก็เกรงว่าจะดูไม่จบ แต่พลอตมันก็ล้ำมากและดีมาก (คืออยากรู้แค่ว่าสรุปแล้วภาคนี้มันเดินเส้นเรื่องยังไง) จุดที่ชอบก็ยังคงเป็นพลอตที่น่าสนใจ มันทำให้เรายังรู้สึกว่าซีรีส์ชุดนี้น่าติดตาม แม้จะเล่าให้สับสนเรื่องเวลา แต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นเสน่ห์ของมันด้วยแหละ เพราะถ้าเล่าเรื่องเป็นเส้นตรง มันอาจจะไม่มีอะไรให้ลุ้น ให้ติดตามเลย ซึ่งเราก็แก้ปัญหาด้วยการไปตามอ่านสปอยล์บางจุดที่งงแทน (คือมันสับสนมากจริงๆนะ) โดยรวมมองว่าภาคนี้พาซีรีส์ออกไปไกลมาก จนจะเรียกว่าล้ำม

The Flash เป็นซีรีส์เพียงไม่กี่เรื่องที่ผมติดตามมาอย่างต่อเนื่องมากๆ โดย Season ที่ชอบที่สุดคงเป็น 2 Season แรก ที่ตัวละครยังใหม่ มีความสด มีมุกและประเด็นใหม่ๆมาตลอด หลังจากนั้นเนื้อหาก็ยังดรอปลง โดยส่วนมากผมคิดว่าน่าจะเป็นที่บท ที่พอเริ่มหมดมุก ก็จะมากับฉากเดิมๆ พระเอกปล่อยตัวร้ายไปง่ายๆแบบเดิมๆ หรือ ตัวร้ายก็อาจจะปล่อยพระเอกไปบ้าง สลับไปสลับมา แนะนำหนัง แต่ในภาคนี้เรื่องราวหลังจะเปลี่ยนจากการปั่นป่วนเวลาของแบร์รี่ เป็นการรับผลจากการเปลี่ยนแปลงของเวลาจากฝีมือของลูกแบร์รี่นั่นเอง ซึ่งถือว่าทำได้ฉลาดในหลายๆประเด็น แม้ว่าจะมีจุดที่ไม่เมคเซนส์จากการสู้กับวายร้ายตัวเดิมๆที่หมายเอาชีวิตกลุ่มพระเอกหลายต่อหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ และเนื้อเรื่องก็วนไปวนมาอยู่หลายตอน แต่ก็ถือว่าหนังทิ้งปมย่อยๆไว้ให้เราได้เก็บไปทีละเล็ก ทีละน้อยทุกๆตอน จนมาเข้าสู่ช่วงท้ายของ Season เนื้อหาค่อยๆเข้มข้นขึ้น เมื่อมีการเปิดเผยรายละเอียดบางอย่างออกมา แต่ก็ยังถือว่าจืด เมื่อเทียบกับช่วง 2 ตอนสุดท้ายที่ซีรีส์เรื่องนี้ไล่กวดยับ จนเก็บหลายๆปมที่ซีรีส์ค่อยๆปูมาแต่แรก แล้วขมวดปม เป็นบทสรุปที่ค่อนข้างดีมากๆ โดยรวมแล้วนี่เป็นอี

Lupin เป็นออริจินัลซีรีส์ที่ฉายทาง Netflix โดยออกฉายแล้วทั้งหมด 5 ตอน นับเป็น Part 1 ซึ่งแน่นอนว่าซีรีส์ที่มาในลักษณะนี้ ก็จะจบค้างแน่นอน แต่ด้วยความที่กระแสแรงมาก ๆ สุดท้ายแล้วผมก็อดรนทนไม่ไหว ตัดสินใจเลือกดูก่อนที่ซีรีส์ชุดนี้จะจบนั่นล่ะ Thai Movie โดยซีรีส์ Lupin นี้จะบอกเล่าเรื่องราวของชายผิวดำคนหนึ่ง ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสือที่พ่อของเขาให้มาสมัยยังเป็นเด็ก ซึ่งหนังสือเล่มนั้นก็คือเรื่องราวของสุภาพบุรุษจอมโจรอย่าง อาแซน ลูแปง นั่นเอง แน่นอนว่าหนังจะบอกเล่าเรื่องราวของการขโมย แต่เมื่อโจรเป็นตัวเอก หนังย่อมมีปมที่ทำให้เราเอาใจช่วยพระเอกอยู่พอสมควร ซีรีส์เรื่อง Lupin นี้ นอกจากจะนำเสนอชั้นเชิง และความเก่งของพระเอกแล้ว ที่ขาดไม่ได้เลยคือการสืบสวนสอบสวนของเหล่าตำรวจ และในขณะเดียวกันก็ยังมีปมที่พระเอกต้องสืบสวนเพื่อไขปริศนาในอดีตด้วยเช่นกัน แม้จะออกมาเพียง 5 ตอนแต่ก็เข้มข้น และน่าติดตามมาก ๆ ส่วนที่เซ็งที่สุดก็คือซีรีส์มันจบค้างมาก เรียกว่าถ้า Part 2 มาเมื่อไหร่ ก็คงรีบดูเลยล่ะครับ โดยรวมใครชอบซีรีส์แนวหักเหลี่ยมเฉือนคม ใช้ทริคและเทคนิคตบตาเพื่อจารกรรม ไปจนถึงสืบสวนสอบสวน ผมคิดว่า

ประเภท โรแมนติก / ตลก เรทผู้รับชม 18+ ผู้กำกับ แคลร์ สแกนลอน ผู้สร้าง Treehouse Pictures นักแสดงนำ โซอี้ ดอยซ์, เกลน พาเวลล์, ลูซี่ ลิว และเทย์ ดิกส์ ความยาวหนัง 105 นาที ปีที่ออกอากาศ 2018 ฮาร์เปอร์ (โซอี้ ดอยซ์) ทำงานเป็นเลขาให้กับ คริสเทน (ลูซี่ ลิว) ผู้สื่อข่าวชื่อดัง คริสเทนจัดอยู่ในกลุ่มคนบ้างานอันดับต้น ๆ เธอทำงานแทบจะ 24 ชั่วโมงจนทำให้ฮาร์เปอร์พลอยโดนจิกหัวใช้เช้ายันค่ำจนแทบจะไม่ได้ทำตามความฝันที่ตั้งเอาไว้ เมื่อเห็นว่าอนาคตการเป็นนักเขียนคนเก่งเริ่มริบหรี่ลงทุกวัน ๆ ฮาร์เปอร์จึงตกลงร่วมมือกับ ชาร์ลี (เกลน พาเวลล์) ชายหนุ่มที่ทำงานอยู่ในตึกเดียวกัน ชาร์ลีเป็นเลขาให้กับ ริก (เทย์ ดิกส์) นักธุรกิจไฟแนนซ์ที่บ้างานจนทำเขาหัวหมุนพอ ๆ กัน หลังจากทั้งคู่เห็นพ้องตรงกันแล้วว่า ในเมื่อเจ้านายของทั้งคู่บ้างานขนาดนี้ก็จับคู่ให้ทั้งสองคนไปเดตกันซะเลย พวกเขาจะได้มีเวลาไปพักหายใจหายคอได้มากขึ้น หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มแผนการต่าง ๆ ที่จะทำให้เจ้านายได้ใกล้ชิดและตกหลุมรักกัน โดยที่ไม่รู้เลยว่าพวกเขาเองก็ตกหลุมพรางที่ขุดไว้อย่างช้า ๆ ไม่ต่างกัน ภาพยนต์ต่างประเทศ เป็นหนักรักปนฮาสไต

ประเภท โรแมนติก / แฟนตาซี / ตลก เรทผู้รับชม 13+ ผู้กำกับ โมนิกา มิตเชลล์ ผู้สร้าง Brad Krevoy Productions นักแสดงนำ วาเนสซา ฮัดเจนส์, จอช ไวท์เฮาส์, เอมมานูเอล ชริกี้ และแฮร์รี จาร์วิส ความยาวหนัง 92 นาที ปีที่ออกอากาศ 2019 ย้อนไปในในยุคกลาง เซอร์โคล (จอช ไวท์เฮาส์) กำลังควบม้าคู่ใจเดินทางกลับปราสาท แต่ระหว่างเขาเจอหญิงชราคนหนึ่งยืนหนาวสั่นอยู่ท่ามกลางหิมะ เซอร์โคลจึงตัดสินใจช่วยพาเธอไปยังที่ปลอดภัยและอบอุ่น หญิงชราคนนั้นซึ้งใจมากจึงมอบลูกแก้ววิเศษให้แก่เขาและบอกว่าเขาจะต้องทำภารกิจหนึ่งในสถานที่ที่ห่างไกลออกไป ตัดมาที่เมืองโอไฮโอ ขณะที่ บรู๊ค (วาเนสซา ฮัดเจนส์) คุณครูวิทยาศาสตร์สาวที่กำลังเดินเล่นอยู่ในเทศกาลคริสต์มาสอยู่นั้นเธอก็บังเอิญเดินชนกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่แต่งคอสเพลย์เป็นอัศวินและมีท่าทีแปลก ๆ ต่อมาทั้งคู่ก็เจอกันอีกครั้งเพราะบรู๊คบังเอิญขับรถชนเขาเข้าอย่างจัง หลังเกิดเรื่องขึ้นบรู๊คจึงพาชายหนุ่มคนนั้นกลับมาที่บ้านเพราะคิดว่าเขาเป็นพวกโฮมเลส (คนไร้บ้าน) และสติไม่ดีเพราะเขาเอาแต่พร่ำเพ้อว่าตัวเองเป็นอัศวิน หลังจากเซอร์โคลเข้ามาอยู่ในบ้านของบรู๊คแล้วเขาก็ปฏิตัวอย่า

ประเภท โรแมนติก / คอมเมดี้ เรทผู้รับชม 13+ ผู้กำกับ ก็อดด์ สเตราส์ ซุลสัน ผู้สร้าง Warner Bros. Pictures นักแสดงนำ เรเบล วิลสัน, เลียม เฮมส์เวิร์ธ, อดัม เดอไวน์ และเบ็ตตี้ กิลพิน ความยาวหนัง 89 นาที ปีที่ออกอากาศ 2019 ในเมืองใหญ่อย่างนิวยอร์กซิตี้ที่เป็นจุดหมายปลายทางของใครหลายคน และ นาตาลี (เรเบล วิลสัน) ก็คือหนึ่งในนั้น เธอมีความฝันอยากเป็นนักออกแบบตึกสูงเสียดฟ้า แต่ไม่ว่าจะพยายามทุ่มเทแค่ไหนสิ่งที่เธอเป็นได้มากที่สุดก็คือเด็กส่งกาแฟ จนกระทั่งวันหนึ่งขณะเดินทางกลับบ้านมีหนุ่มคนหนึ่งทำท่าทีสนใจและเข้ามาจีบ แต่แล้วเขาคนนั้นกลับกลายเป็นโจรที่หวังจะชิงทรัพย์ แน่นอนว่านาตาลีคนแกร่งต่อสู้สุดชีวิตจนกระทั่งเธอสลบไป หญิงสาวที่ไม่เคยมีความเชื่อในความรักฟื้นขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับโลกที่เปลี่ยนไปราวฟ้ากับเหว มหานครนิวยอร์คกลับกลายเป็นฉากในหนังรักสุดเลี่ยนที่มองไปทางไหนก็เจอแต่สีชมพู แค่นั้นยังไม่พอเพราะเธอพบว่าจู่ ๆ ตัวเองก็กลายมาเป็นนางเอกสาวที่เป็นที่หมายปองของชายหนุ่มทั้งเมือง แถมยังมีมหาเศรษฐีหนุ่มอย่าง เบลค (เลียม เฮมส์เวิร์ธ) คอยวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ ทำให้หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ หนังไ

เรื่องย่อ เทสซ่า สาวผู้ใช้ชีวิตในกรอบมาตลอด ได้ก้าวสู่รั้วมหาวิทยาลัย และต้องห่างกับแฟนหนุ่มรุ่นน้อง เธอพบกับ ฮาร์ดิน หนุ่มหน้าหล่อแบดบอยคนดังลุกอธิการมหาวิทยาลัย แม้ในตอนแรกเธอจะไม่ค่อยถูกชะตา แต่ด้วยแรงดึงดูดและอะไรหลายๆ อย่างทำให้ทั้งสองอดคิดถึงกันไม่ได้ รีวิวหนังไทย รีวิว แหม แค่พล็อตเรื่องนี่ก็อดคิดไม่ได้ ว่ามันคือพล็อตนิยายบนเด็กดี นิยายแจ่มใส หรือไม่ก็พล็อตการ์ตูนตาหวานที่เคยอ่านๆ กันสมัยม.ต้น ก็แหม หนังสร้างจากนิยายขายดีเชียวนะ แม้เนื้อหาหนังเรียบง่าย เดาทางได้ ไม่มีปมอะไรซับซ้อน แต่จุดขายคือฉากรักสุดฟิน ที่ชวนให้จิ้น ให้มโนกันไปว่า “ฉันเป็นนางเอก” นะ ดูจบแล้วรู้สึกอบอุ่น อิ่มสุข ปลื้มอย่างบอกไม่ถูก แต่ถ้าใครคาดหวังสูงไปหรือผู้ชายมาดูก็อาจจะไม่อินได้นะ ผู้หญิงคนไหนไม่เคยอ่านการ์ตูนตาหวานบ้างล่ะ คงมีแต่น้อยมากๆ เพราะคาแร็คเตอร์ตัวพระเอกนางเอกของเรื่อง มันคือคาแร็คเตอร์เดียวกันกับนิยายแจ่มใสหรือการ์ตูนตาหวานเลยแหละ สาวเนิร์ด กับหนุ่มแบดบอย ใครละจะไม่ชอบพล็อตเรื่องสไตล์นี้ อย่างที่บอกไป ว่าเนื้อหาหนังเรียบง่ายสุดๆ แต่เหตุผลของตัวละครก็ไม่ค่อยมีน้ำหนักเท่าไร ออกแนวงี่เง่าไปในบางครั

The Silver Skates (สเก็ตสีเงิน) ภาพยนตร์โรแมนติกผจญภัยย้อนยุคฟอร์มยักษ์จากประเทศรัสเซีย กำกับโดย ไมเคิล ล็อกชิน ผู้กำกับชาวรัสเซียที่ก้าวมากำกับภาพยนตร์ยาวเป็นครั้งแรก และได้มือเขียนบทภาพยนตร์รัสเซียที่ผมไม่รู้จักมากมายอย่าง โรมัน คานเตอร์ โดยหยิบนำเอาแรงบันดาลใจส่วนหนึ่งมาจากวรรณกรรมเรื่อง โรเมโอ และ จูเลียต และสร้างจากวรรณกรรมอเมริกันเรื่อง Hans Brinker, or The Silver Skates เนื้อเรื่องอยู่ในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กในประเทศรัสเซีย ในช่วงจักรวรรดิรัสเซียปลายศตวรรษที่ 19 ที่ความเจริญรุ่งเรืองทางวิทยาศาสตร์เริ่มเข้ามาอย่างแพร่หลาย ชายหญิงสองคนที่ต่างฐานะได้มาพบรักและก่อเกิดเป็นเรื่องราวการเผชิญหน้าทางชนชั้นพร้อมกับการละเล่นสเก็ตน้ำแข็งในเมืองหิมะแห่งนี้ โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับเลือกให้เป็นภาพยนตร์เปิดตัวในเทศกาลภาพยนตร์ Moscow International Film Festival ครั้งที่ 42 ในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว และเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในรัสเซียแบบจำกัดโรง เนื่องจากสภาวะโควิดระบาดในเดือนธันวาคม แต่ทว่าหนังกลับทำรายได้เปิดตัวสูงกว่า 100 ล้านเหรียญรูเบียในสัปดาห์แรกที่เข้าฉาย และทำเงินสกุลของรัสเซียรวมไปได้ถึง

ซีรีย์ประเภท : ดราม่า , อาชญากรรม เรื่องย่อ : เปิดตัวด้วยชีวิตการเป็นนักเรียนช่วงสุดท้ายของเหล่าตัวละครที่ริเวอร์เดล ไฮ เรื่องราวหลากอารมณ์ ตั้งแต่งานพรอมที่หรูหราตระการตา ไปจนถึงพิธีจบการศึกษา ร่วมบอกลาตัวละครโปรดและรับรู้เส้นทางความสัมพันธ์ที่บางคู่อาจต้องบอกลา เมื่อแต่ละคนแยกกันไปตามเส้นทางชีวิตและมหาวิทยาลัยที่ตัวเองเลือก จากนั้นเราจะเห็นชาวแก๊งที่โตเป็นผู้ใหญ่ ทุกคนกลับมาที่ริเวอร์เดลเพื่อหลบหนีอดีตที่ขมขื่น ชีวิตและความรักอาจยิ่งซับซ้อนตามประสาคนวัย 20  สปอยล์หนังใหม่